Business

[รีวิว] Demon Slayer- Kimetsu no Yaiba – Sweep the Board!

Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba – Sweep the Board! เป็นเกมแนวบอร์ดเกมที่ผู้เล่นจะได้สำรวจโลกที่เต็มไปด้วยพลังและความท้าทาย ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Tanjiro Kamado, Zenitsu Agatsuma, Inosuke Hashibira และเหล่าเสาหลักทั้ง 9 เพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ได้สูงสุด 4 คน โดยเกมรองรับทั้งการเล่นแบบ Local และ Online

และในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปเล่นมินิเกมที่น่าตื่นเต้นหลากหลายรูปแบบ พบปะกับตัวละครที่คุ้นเคย และปราบอสูรมาแล้วก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน Switch และถ้าหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้ครับ

กราฟิกการ์ตูนสวยงามกำลังดี แถมประสิทธิภาพของเกมลื่นไหลมาก

สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอในการเล่นเกมบน Switch ก็คือกราฟิกของเครื่องนี้ที่เราคงเอาไปเทียบกับคอนโซลทรงพลังอย่าง PlayStation หรือ Xbox ไม่ได้ เพราะสิ่งที่เราได้จากเครื่องนี้ก็คือการเล่นเกมแบบพกพานั่นเอง ฉะนั้นสิ่งที่ผู้เขียนค่อนข้างให้ความสำคัญมากก็คือประสิทธิภาพของเกมที่เล่นได้ลื่นไหล อาการกระตุกมีให้น้อยที่สุด ซึ่งเกมนี้ก็ทำออกมาได้ดีมาก ๆ เพราะตลอดการเล่นเกมนี้ ผู้เขียนพบอาการเฟรมเรตตกเพียงเล็กน้อย นั่นก็คือช่วงทอยลูกเต๋าที่มีเอฟเฟกต์หมุนเยอะ ๆ ซึ่งสำหรับช่วงมินิเกมอื่น ๆ หรือการต่อสู้กับอสูรนั้นไม่พบปัญหาการกระตุกที่ทำให้การเล่นเกมลำบากแต่อย่างใด ทำให้ผู้เขียนประทับใจมาก ๆ นอกจากนี้กราฟิกของเกมนี้ก็ไม่ได้แย่แต่อย่างใด ผู้เขียนมองว่าคุณภาพกราฟิกถือว่าดูดีมาก ๆ สำหรับ Switch แล้ว โดยไม่ว่าจะเล่นแบบต่อจอใหญ่ หรือเล่นแบบพกพากราฟิกก็ถือว่าสวยงาม และประสิทธิภาพถือว่าทำออกมาได้ดีโดนใจสุด ๆ

เกมเพลย์สไตล์เกมกระดานที่เข้าใจง่าย มีกิมมิกที่ดัดแปลงมาได้น่าสนใจ

สำหรับเกม Demon Slayer -Kimetsu no Yaiba- Sweep The Board เกมนี้เป็นการนำดาบพิฆาตอสูรมานำเสนอในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม นั่นก็คือจากเกมแอ็กชั่นทั่ว ๆ ไปให้กลายมาเป็นบอร์ดเกมสำหรับครอบครัวที่เล่นได้เพลิน ๆ สบาย ๆ สูงสุดถึง 4 คน ที่บอกได้เลยว่าไม่ใช่แฟนดาบพิฆาตอสูรก็เล่นได้ แต่ถ้าเป็นแฟนล่ะก็มีกรี๊ดแน่นอนครับ

เป้าหมายในการเล่นบอร์ดเกมนี้ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ใครเข้าเส้นชัยก่อน แต่จะตัดสินผู้ชนะด้วยการนับแต้ม Rank ที่ได้จากการเล่นมินิเกม รวมไปถึงการปราบอสูรต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถกำหนดได้ว่าจะเล่นกันทั้งหมดกี่รอบ ซึ่งการทอยลูกเต๋าจะมีความพิเศษก็คือหน่วยพิฆาตอสูรแต่ละคนจะมีรูปแบบลูกเต๋าพิเศษให้ใช้งานได้แตกต่างกันออกไป ทำให้เกมนี้น่าสนใจมากขึ้น รวมไปถึงช่องเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่น เราจะมีโอกาสซื้อไอเทมช่วยเหลือในการเล่นได้, มีช่องที่ตกแล้วได้เงินเพิ่ม หรือโดนหักเงิน, ช่องที่ตกแล้วจะเป็นการฝึกพิเศษมอบแต้มหรือทองให้ รวมไปถึงช่อง Fast Travel ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งช่องที่จะทำให้เราได้หน่วยพิฆาตอสูรคนอื่น ๆ มาร่วมทีมชั่วคราว

นอกจากนี้บอร์ดเกมนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลานั่นก็คือกลางวันและกลางคืน โดยในช่วงกลางวันนั้นทุกอย่างก็จะเกิดขึ้นตามปกติ เราตกช่องบอร์ดที่มีเอฟเฟกต์แบบไหนก็จะเกิดเอฟเฟกต์แบบนั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีผู้เล่นเดินไปถึงจุดหมายที่กำหนดไว้ เวลาจะเปลี่ยนเป็นกลางคืนทันที และเมื่อเข้าสู่ช่วงนี้ก็จะทำให้มีอสูรปรากฎตัว และจะทำให้ช่องบนบอร์ดบางช่องกลายเป็นช่องอสูร ซึ่งเมื่อเราเดินตกลงไปช่องดังกล่าวเราก็อาจจะมีโอกาสได้ร่วมกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ต่อสู้กับอสูรได้ และเมื่อเรากำจัดอสูรที่ปรากฎตัวออกมาได้ เวลาก็จะกลับมาเป็นช่วงกลางวันอีกครั้งหนึ่งวนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นั่นเอง

โดยรวมแล้วแมคคานิกของบอร์ดเกมก็ถือว่าเป็นพื้นฐานที่เข้าใจได้ง่ายมาก ๆ และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพูดถึงก็คือลักษณะของบอร์ดเกมนี้จะมีทั้งหมด 5 บอร์ดด้วยกัน โดยอ้างอิงจากสถานที่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอนิเมะ (ไม่นับมังงะ) โดยบอร์ดแรกก็จะเป็นช่วงที่ Tanjiro ฝึกวิชา และทดสอบเข้าหน่วยพิฆาตอสูร, บอร์ดที่ 2 คือช่วงแมนชั่น Tsuzumi และภูเขาที่เราเจอกับ Rui, บอร์ดที่ 3 ก็จะมาจากอนิเมะ ดาบพิฆาตอสูร: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์, บอร์ดที่ 4 คือย่านเริงรมย์ และบอร์ดสุดท้ายก็คือหมู่บ้านช่างตีดาบ และถึงแม้ว่าแมคคานิกของบอร์ดต่าง ๆ จะคล้ายกันแต่ก็จะมีการดัดแปลงให้เหมาะสมกับธีมของบอร์ดนั้น ๆ ซึ่งก็ทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจไม่น้อย

มินิเกมที่เข้าใจง่าย และได้เพลิน และทำออกมาได้ดี

สำหรับมินิเกมที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของเกมนี้ก็ถูกทำออกมาได้ดีจนน่าประหลาดใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยทุก ๆ มินิเกมจะมีการดัดแปลงให้เข้ากับธีมของดาบพิฆาตอสูรให้ได้มากที่สุด แม้ว่าบางเกมจะเป็นเกมที่คุ้นตา แต่ก็มีการดัดแปลงให้เหมาะสมกับการ์ตูนได้อย่างน่ารักน่าหยิก นอกจากนี้มินิเกมภายในเกมนี้ถือได้ว่ามีความหลากหลายอยู่พอสมควร โดยเท่าที่ผู้เขียนลองนับดู มินิเกมภายในเกมนี้มีมากถึง 34 เกมเลยทีเดียว ทำให้ตลอดการเล่นเกมของผู้เล่นในครั้งนี้แทบจะไม่เจอมินิเกมซ้ำกันเลยในการเล่นแต่ละครั้ง แต่เมื่อเล่นรอบ 2 เป็นต้นไปก็จะมีโอกาสเจอมินิเกมซ้ำ ๆ อยู่บ้างซึ่งก็เข้าใจได้ครับ

สำหรับตัวอย่างเกมที่ผู้เขียนมองว่าสนุกสนานน่าเล่นเลยก็ว่าได้นั่นก็คือเกมลูกข่าง (คล้ายกับเบย์เบลด) ที่ผู้เล่นจะได้ควบคุมลูกข่างของตัวเองชนลูกข่างของคนอื่นให้ออกจากสนามไป, มินิเกมยิงเป้าที่ผู้เล่นจะได้เลื่อนเคอร์เซอร์ของตัวเองยิงเป้าที่เป็นรูปอสูร โดยเป้าแต่ละอันก็จะมีแต้มแตกต่างกันออกไป, มินิเกมวิ่งหลบสิ่งกีดขวางที่ดัดแปลงมาจากการฝึกของ Sakonji, มินิเกมเคนโดที่เราจะต้องควบคุมตัวละครของเราใช้ดาบไม้ฟาดให้คู่แข่งออกจากสนามให้ได้ เป็นต้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

จุดที่ผู้เขียนชอบที่สุดก็คือก่อนที่จะเข้ามินิเกมทุกครั้งจะมีช่วงให้เราได้ทดลองเล่นจริง ๆ ด้วย ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเมื่อเข้าสู่การแข่งขันผู้เล่นไม่มีงงแน่นอน อีกทั้งมินิเกมเหล่านี้ถูกทำออกมาให้เข้าใจง่าย เล่นได้ง่าย โดยผู้เขียนเองที่ค่อนข้างโตแล้วยังรู้สึกสนุกไม่น้อย (แต่ก็มีบางอันแอบเนือย ๆ ไปบ้าง) แต่หลาน ๆ ของผู้เขียนที่อายุประมาณ 10 กว่าขวบ ไปจนถึงวัยรุ่นประมาณ 20 ก็พูดตรงกันว่ามินิเกมพวกนี้ทำออกมาได้ดี เข้าใจง่าย เล่นได้สนุกมาก ๆ ซึ่งผู้เขียนบวกคะแนนให้ในจุดนี้เยอะพอสมควรเลยครับ

จุดที่น่าเสียดายไปหน่อยก็คืออยากให้มีมินิเกมมากกว่านี้อีกสักนิด โดยหวังว่าในอนาคตจะมีแพทช์อัปเดตมินิเกมให้มากขึ้นนะครับ (แอบส่งกำลังใจให้ผู้พัฒนาต่อไป)

การต่อสู้กับอสูรที่สนุก แต่กลายเป็นจุดโหว่ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเกมเมอร์ผู้ใหญ่

คะแนนที่บวกให้กับช่วงมินิเกมไปเยอะมาก ๆ กลับมาเสียหลักที่จุดนี้ครับ โดยอย่างที่ได้บอกไปว่าเมื่อผู้เล่นเข้าถึงช่วงเวลากลางคืน ผู้เล่นจะได้มีโอกาสเผชิญหน้ากับอสูรที่เป็นอสูรตัวหลักของแต่ละด่าน ทำให้การต่อสู้กับอสูรเป็นสิ่งที่เราจะต้องเจอภายในเกมนี้ด้วย

สำหรับเกมเพลย์คร่าว ๆ ของการต่อสู้กับอสูรก็คือการสะบัดจอยคอน (หรือกดปุ่ม) ให้ตรงกับจังหวะ และทิศทางที่ปรากฎขึ้นหน้าจอ โดยนอกเหนือจากการเล่นในรูปแบบแรกแล้ว ยังมีบางครั้งที่ผู้เล่นจะได้มีโอกาสฟาดฟัน (หรือสแปมปุ่ม) ให้ปวดแขนปวดนิ้วแบบรัว ๆ เพื่อทำแต้มให้สูงที่สุดด้วย ฟังดูแล้วบอกได้เลยว่ามันส์แน่ ๆ ใช่ไหมล่ะครับ… แต่ผู้เขียนบอกได้เลยว่านี่คือจุดโหว่ที่ร้ายแรงมาก ๆ เพราะการต่อสู้กับอสูรภายในเกมนี้ แม้ว่าจะมีการนำเสนอรูปแบบท่วงท่า หรือจังหวะที่แตกต่างกันออกไป เช่น การสะบัดจอยให้ไปตามทิศทางของลูกศรฝีมืออสูร Yahaba, การสะบัดจอยไปในทิศทางที่กำหนดเพื่อปัดป้องการโจมตีของ Gyokko, การสะบัดจอยให้ตรงกับทิศทางเพื่อป้องกันการโจมตีของ Hantengu… ใช่ครับ ทุกอย่างคือการสะบัดจอยไปตามทิศทาง (หรือกดปุ่ม) ให้ตรงจังหวะเท่านั้น ซึ่งผู้เขียนเองมองว่าจริง ๆ แล้วทางผู้พัฒนาน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ แต่นี่เหมือนกับทางผู้พัฒนาต้องการโชว์ฉากเท่ ๆ จากอนิเมะเข้ามาให้เราได้ชมกัน ทำให้เกมเพลย์ในช่วงปราบอสูรนี้ซ้ำซากจนเกินไป (มีตาหนึ่งที่ผู้เขียนได้เข้าต่อสู้กับอสูรประมาณ 4-5 ครั้ง ซึ่งทำเอาเอียนไม่น้อยเลยทีเดียว)

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ใหญ่อาจจะรู้สึกเบื่อ แต่เด็ก ๆ นั้นกลับกลายเป็นความสนุกที่พวกเขาชอบมาก ๆ แต่พวกเขาเองก็บอกว่าปวดแขนไม่น้อยเลยทีเดียว (ฮา…) ซึ่งในจุดนี้ผู้เขียนเองก็คงต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้พัฒนาเกมว่ารูปแบบการต่อสู้กับอสูรนี้อาจจะซ้ำซากไปหน่อย แต่ก็ตอบสนองกับความต้องการของเหล่าเด็ก ๆ ที่อยากฟาดฟันกับอสูรโดยใช้ร่างกายของตัวเองจริง ๆ ได้เป็นอย่างดีครับ

ระบบกาชาที่ใส่เข้ามาให้ลุ้นกันเล่น ๆ

เกมนี้มีระบบกาชาให้ผู้เล่นได้ใช้งานกันด้วย แต่ก็ไม่ต้องตกใจไปครับ กาชาภายในเกมนี้ไม่ได้ส่งผลต่อเกมเพลย์แต่อย่างใด โดยของที่เราจะสุ่มได้นั้นก็จะเป็นของตกแต่งเป็นหลัก เช่นวอลล์เปเปอร์ของนามบัตร, ขอบนามบัตร, ภาพอวาตาร์ติดนามบัตร ซึ่งจะเป็นช็อตภาพจากอนิเมะ, สแตมป์ รวมไปถึงสกินของตัวละครแต่ละตัว เป็นต้น โดยผู้เล่นสามารถนำแต้มที่ได้จากการเล่นเกมแต่ละครั้งมาใช้สุ่มได้นั่นเอง

สรุปรีวิว Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba – Sweep the Board!

สำหรับผู้เขียนเองมองว่าเกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่สนุกเกินคาด การดัดแปลงดาบพิฆาตอสูรเข้ากับบอร์ดเกมเป็นอะไรที่ลงตัวมาก ๆ แม้ว่าจะมีจุดซ้ำซากไปบ้างกับเกมเพลย์ต่อสู้กับอสูร รวมไปถึงหากเราเล่นเกมนี้กับคอมพิวเตอร์อย่างเดียวก็อาจจะเบื่อได้ง่าย ๆ เช่นกัน แต่ความหลากหลายของมินิเกม รวมไปถึงความเฮฮาของการเล่นกันภายในครอบครัว อีกทั้งเสียงหัวเราะ และการโวยวายระหว่างเล่นเกมนี้ก็ทำให้ข้อติงของเกมนี้ถูกมองข้ามไปได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้กราฟิกของเกมนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนประสิทธิภาพของเกมนี้ก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีมาก ๆ

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

– กราฟิกสวยงามกำลังดี ประสิทธิภาพลื่นไหล

– การดัดแปลงดาบพิฆาตอสูรเข้ามาใส่ในระบบของบอร์ดเกมที่ทำออกมาได้ดี

– มินิเกมที่หลากหลาย สนุกเพลิดเพลิน

– มีการต่อสู้กับอสูร พร้อมฉากเท่ ๆ ให้ได้ชม

ข้อสังเกต

– ระบบการต่อสู้กับอสูรที่แอบซ้ำซากไปนิด

– อยากให้แมคคานิกของบอร์ดแต่ละอันแตกต่างกันมากกว่านี้

– เกมเมอร์ผู้ใหญ่อาจจะไม่อินเท่าไหร่

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ SEGA ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวกันในครั้งนี้ครับ

ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :[คลิก]

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

Demon Slayer Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba – Sweep the Board!

Related Posts

Paytm shares slide 4% as MD & CEO Surinder Chawla of Payments Bank resigns

The stock of One97 Communication, the parent firm of Paytm, dipped 4% to an intra-day low of Rs 388 after Paytm Payments Bank MD & CEO Surinder Chawla…

Rupee flat as local US dollar demand counters softer greenback

The Indian rupee was little changed on Thursday, despite Asian peers moving higher, as U.S. dollar demand from importers and local oil companies offset a softness in the…

Sanstar files IPO papers with Sebi to raise funds

Plant-based speciality products company Sanstar Ltd has filed its draft papers with capital markets regulator Sebi to raise Rs 425-500 crore through an initial public offering.The total size…

NCLT allows IL&FS Transportation Networks to offload shares in an expressway project

The National Company Law Tribunal (NCLT) has allowed IL&FS arm IL&FS Transportation Networks to offload its shares in Moradabad Bareilly Expressway to the Roadstar Infra Investment Trust (InvIT)….

Suicide Squad- Kill The Justice League Will Not Drop Live-Service Elements, Report Says

Suicide Squad: Kill the Justice League has reportedly been delayed, but fans hoping that developer Rocksteady will ditch the game’s live-service elements should not get their hopes up….

The Portal Movie From JJ Abrams Is Still Alive, But The Half-Life Movie Is Not

The Portal movie from director JJ Abrams and Valve is still alive. Abrams himself confirmed as much in an interview with IGN, saying the project has a script…